แกะกล่อง "แอปเปิล วอตช์" (Apple Watch) นาฬิกาอัจฉริยะจากค่ายแอปเปิล หลังเปิดขายครั้งแรกเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา และขายในไทยครั้งแรกเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม…
เพิ่งเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยไปเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา เรียกว่ายังไม่ทันครบรอบ 1 เดือน สำหรับนาฬิกาอัจฉริยะจากแบรนด์แอปเปิล หรือ แอปเปิล วอตช์ ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังอยู่ในช่วงทยอยเปิดจำหน่ายในประเทศต่างๆ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจรู้จักและเข้าใจถึงการใช้งานของแอปเปิล วอตช์เป็นอย่างดี แต่หลายคนก็ยังสับสนและงงๆ ว่าอุปกรณ์ที่หน้าตาคล้ายนาฬิกานี้มีหน้าที่และคุณสมบัติอย่างไร
"ไทยรัฐออนไลน์" ได้มีโอกาสรับฟังข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล ซึ่งได้แนะนำและให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับแอปเปิล วอตช์ เพื่อนำมาบอกเล่าแก่ผู้อ่าน ว่าตกลงแล้ว...นาฬิกาไฮเทคเรือนนี้มีดีอย่างไร?
แอปเปิล วอตช์ สไตล์นาฬิกาลูกผสมอุปกรณ์เพื่อสุขภาพ
ตกลงแล้ว แอปเปิล วอตช์ คือ…?
ด้วยหน้าตาของแอปเปิล วอตช์ ที่ถูกออกแบบมาให้ดูเป็นนาฬิกามากกว่าจะเป็นสายรัดข้อมืออัจฉริยะ (Smart Wristband) หรือแวร์เอเบิล (Wearable) เหมือนกับแบรนด์อื่นๆ ที่เจาะจงการใช้งานเอาไว้ชัดเจนว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ร่วมกับการออกกำลังกาย จึงทำให้หลายคนสงสัยถึงคุณสมบัติการใช้งาน ว่าแอปเปิล วอตช์ นั้นโดดเด่นเรื่องอะไร
"คุณสมบัติของแอปเปิล วอตช์ สามารถแบ่งออกได้ 3 ประการ คือ นาฬิกา การสื่อสาร และตัวช่วยด้านสุขภาพ นอกจากการเป็นาฬิกา แอปเปิล วอตช์ ยังเป็นตัวช่วยสำหรับการสื่อสารด้วยวิธีใหม่ๆ และช่วยพัฒนาสุขภาพของผู้ใช้งานให้ดีขึ้นพร้อมๆ กัน ซึ่งสายรัดข้อมือหรือนาฬิกาอัจฉริยะอื่นๆ อาจเป็นเพียงผู้ช่วยในการนับจำนวนก้าว แต่แอปเปิล วอตช์ พัฒนาขึ้นเพื่อวัดคุณภาพของกิจกรรมต่างๆ ที่คุณทำในแต่ละวัน นอกจากนั้นก็ยังสามารถเลือกโทรออก ส่งข้อความ หรือแชตกับเพื่อนๆ คนสนิท ได้ในครั้งเดียวที่เปิดขึ้นมา พร้อมกับใช้งานอีก 20 แอพพลิเคชั่น ที่คุณต้องการให้เชื่อมต่อกับไอโฟนของคุณ" ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล บอกกับเรา
แม้จะถูกออกแบบมาให้มีทั้งความสวยงามและความทนทานเพื่อรองรับการใช้งานทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน แอปเปิล วอตช์ ก็ไม่ได้แกร่งดุจเพชร! เพราะเราไม่แนะนำให้คุณสวมไปว่ายน้ำหรือดำน้ำอย่างเด็ดขาด แต่กิจกรรมหนักๆ ในรูปแบบที่ต้องตากแดด เปียกฝน โดนน้ำกระเซ็น ก็ยังสามารถสวมใส่ แอปเปิล วอตช์ และดำเนินกิจกรรมเหล่านั้นได้ตามปกติ เนื่องจากแอปเปิลได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้รองรับการสวมใส่ตลอดวัน มีสายที่ผลิตจากหลากวัสดุและหลายรูปแบบเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานและรสนิยมของผู้ใช้แต่ละคน ซึ่งแน่นอนว่าต้องเน้นความเบาเพื่อให้สวมใส่ได้สบาย
สีสันสวยๆ แบบนี้ เรียกว่ารุ่นวอตช์ สปอร์ต (Watch Sport)
รุ่นนี้เรียกว่า วอตช์ (Watch)
หรูหราที่สุดต้องรุ่นนี้... วอตช์ อิดิชั่น (Watch Edition)
3 รุ่นของแอปเปิล วอตช์ มีอะไรบ้าง...?
หลายคนน่าจะคุ้นหูกับเรื่องนี้มาบ้างแล้ว โดยแอปเปิล วอตช์ แบ่งออกทั้งหมด 3 ประเภท คือ วอตช์ สปอร์ต (Watch Sport), วอตช์ (Watch), วอตช์ อิดิชั่น (Watch Edition) โดยแทบทุกรุ่นจะแบ่งตัวเรือนออกเป็น 2 ขนาด คือ ขนาด 38 มม. และ 42 มม. แต่ก็มีอยู่หลายรุ่นที่มีเฉพาะขนาด 38 มม. หรือ 42 มม. เท่านั้น เช่น ในรุ่นวอตช์ กับสายแบบ Modern Buckle สีชมพูอ่อน ที่มีแต่ขนาด 38 มม. และสายแบบ Leather Loop สีสโตนและสีน้ำตาลอ่อน ที่มีแต่ขนาด 42 มม. หรือรุ่นวอตช์ อิดิชั่น ตัวเรือนทองคำ 18 กะรัต กับสายแบบ Classic Buckle สีมิดไนท์บลู ที่มีแต่ขนาด 42 มม. และสายแบบ Modern Buckle สีแดงสด ที่มีแต่ขนาด 38 มม. เป็นต้น
จุดเด่นของแต่ละรุ่น...?
หากไล่เรียงกันตามลำดับ (ราคา) จากน้องเล็กไปหาพี่ใหญ่... รุ่นวอตช์ สปอร์ต ตัวเรือนผลิตจากอะลูมิเนียมชุบผิวน้ำหนักเบาที่เรียกว่า อะลูมิเนียม 7000 Series หน้าจอทำจากกระจก Ion-X ซึ่งเป็นประเภทเดียวกับที่ใช้อยู่ในไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส ให้น้ำหนักเบาแต่แข็งแรงทนทาน มาพร้อมกับสายฟลูโอโรอีลาสโตเมอร์ ให้เลือกถึง 5 สี หรือจะเปลี่ยนเป็นสายหนังหรือสายแบบโลหะสเตนเลสสตีลก็ได้
ขณะที่ รุ่นวอตช์ ตัวเรือนจะเป็นตัวเรือนสเตนเลสสตีลขัดเงาและสเตนเลสสตีลสีดำสเปซแบล็ก ซึ่งเป็นโลหะผสมที่ทนทาน ถูกนำมาหลอมเย็นเพื่อให้มีความแข็งแกร่งกว่าโลหะทั่วไปถึง 80% ทั้งยังใช้ผลึกแซฟไฟร์วัสดุที่แข็งแรงเป็นรองจากเพชรในการผลิตหน้าจอเพื่อความแข็งแรง พร้อมด้วยสายหนัง 3 แบบ คือ สายแบบ Link Bracelet, Milanese Loop, ยางฟลูโอโรอีลาสโตเมอร์คุณภาพสูง เน้นความสวยงาม เรียบหรู และทันสมัย
หลายคนเห็นแล้วบ่นอยากได้
ส่วน รุ่นอิดิชั่น เน้นการนำเสนอสไตล์ที่สะท้อนความสง่างาม แต่ละเรือนมาพร้อมตัวเรือนที่ผลิตขึ้นอย่างพิถีพิถันจากทองคำ 18 กะรัต แข็งกว่าทองคำมาตรฐานถึง 2 เท่า จอภาพได้รับการปกป้องอย่างดีด้วยผลึกแซฟไฟร์ขัดเงา และสายนาฬิกาที่ออกแบบมาอย่างประณีต เพื่อผู้ที่ชื่นชอบความสวยงามและหรูหรา
ราคา…?
เราเคยนำเสนอเกี่ยวกับราคาของแอปเปิล วอตช์ มาบ้างแล้ว สามารถอ่านรายละเอียดทั้งหมด เพิ่มเติมได้จาก "เทียบทุกอณู! เช็กราคา 'แอปเปิล วอตช์' รุ่นไหนสูงเกินคว้า-มูลค่าน่าคบ?"
ภายในกล่องแอปเปิล วอตช์ มีอะไรบ้าง…?
นอกจากตัวเรือน ภายในกล่องแอปเปิล วอตช์ ยังมาพร้อมกับสายสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งส่วนตัวชาร์จนั้นเป็นแม่เหล็กสามารถวางแปะเข้ากับตัวแอปเปิล วอตช์ เพื่อทำการชาร์จได้ทันที ซึ่งเวลาคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญจากแอปเปิลระบุว่าเวลาที่เหมาะสมกับการชาร์จแอปเปิล วอตช์ ที่ดีที่สุด คือช่วงกลางคืนขณะที่คุณหลับ เนื่องจากเป็นช่วงที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะถอดออกแอปเปิลวอตช์จากตัว หลังจากที่สวมใส่ติดข้อมือตลอดวัน
สวย...มาถึงด้านหลัง
เริ่มต้นการใช้งาน อย่างไร…?
หลายคนอาจยังสงสัยว่าเราจะใช้แอปเปิล วอตช์ อย่างไร ต้องมีปากกาจิ้มที่หน้าจอ หรือใช้นิ้วมือจิ้มได้เลย หรือต้องพิมพ์ หรือ…? คำตอบง่ายๆ ก็คือ...แอปเปิล วอตช์ ใช้งานด้วย 2-3 วิธี คือ 1. การกดลงไปที่หน้าจอ 2. การหมุนปุ่ม Digital Crown หรือเม็ดมะยม ซึ่งอยู่ที่ด้านข้างตัวเรือน 3. ใช้งานด้วยเสียง
สำหรับการเริ่มต้นเพื่อใช้งานแอปเปิล วอตช์นั้น ผู้ใช้จะต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับไอโฟนเสียก่อน เนื่องจากแอปเปิล วอตช์ ถูกออกแบบมาให้เป็นส่วนเสริมเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานไอโฟนกับชีวิตประจำวันนั่นเอง หลังจากนั้นก็ต้องกดปุ่ม Digital Touch ที่ด้านข้างค้างไว้ประมาณ 2-3 วินาที เพื่อเปิดเครื่องโดยต้องรอให้หน้าจอแสดงโลโก้แอปเปิลขึ้นมา และรออีกราว 1 นาที เพื่อเริ่มต้นการใช้งาน โดยเริ่มต้นที่การจับคู่อุปกรณ์ที่สุดจะไฮเทค...เพียงส่องกล้องของไอโฟนไปที่หน้าจอแอปเปิล วอตช์ จากนั้นก็ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ที่เมนูแนะนำ
"แนวคิดในการพัฒนาแอปเปิล วอตช์ คือการส่งข้อมูลสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ เพียงแค่คุณชำเลืองมองไปที่หน้าจอบนข้อมือ ซึ่งคุณสามารถเลือกการนำเสนอข้อมูลสำคัญได้เอง อาทิ วันที่ เวลา ปฏิทิน กิจกรรม หรือเวลาท้องถิ่นในต่างประเทศ ต่างจังหวัด เป็นต้น ซึ่งนั่นหมายถึงการรวมแอพพลิเคชั่นหลายๆ แอพ มาอยู่ด้วยกันและสามารถดูข้อมูลเหล่านั้นได้ในทันที เพียงแค่การชำเลืองมอง" ผู้เชี่ยวชาญจากแอปเปิล กล่าว
พร้อมทำการเชื่อมต่อกับไอโฟน
ตั้งค่าการใช้งานได้ตามที่คุณต้องการ
มีอะไรเจ๋ง ในแอปเปิล วอตช์…?
สำหรับฟังก์ชันที่แอปเปิล วอตช์ นำเสนอว่าเป็นทีเด็ด ซึ่งเราขอกล่าวถึงเป็นเบื้องต้น คือ…
1. การตามหาไอโฟนที่คุณเชื่อมต่อกับแอปเปิล วอตช์ เพียงเลื่อนแถบเมนูที่ซ่อนอยู่ที่ด้านล่างขึ้นมาด้วยวิธีการลากนิ้วจากล่างขึ้นบน และเลื่อนไปที่หมวด “เชื่อมต่ออยู่” คุณก็จะได้พบกับสัญลักษณ์รูปโทรศัพท์ซึ่งเหมือนมีแถบเสียงอยู่ที่ด้านข้าง และเมื่อกดลงไป...ไอโฟนที่ถูกเชื่อมต่อกับแอปเปิล วอตช์ เครื่องนั้นก็จะส่งเสียงเตือนเพื่อให้เจ้าของรู้ว่ามันถูกวางอยู่ตรงไหน!!!
2. ความเท่ในการรับรู้ถึงแรงกดของนิ้ว กับหน้าจอที่เรียกว่า Force Touch ทำให้นี่เป็นอีกหนึ่งวิธีในการออกคำสั่งเพื่อใช้งานแอปเปิล วอตช์ กดหนักๆ หรือกดแบบเบาๆ เจ้าเครื่องนี้สามารถแยกแยะแรงกดของคุณและตอบสนองด้วยการใช้งานต่างๆ ได้
3. กลับสู่หน้าจอแรกด้วยการกดด้านข้างของปุ่ม Digital Crown
สัญลักษณ์ด้านล่าง...ใช้ตามหาไอโฟน เมื่อคุณหาไม่เจอ
4. Siri ก็พร้อมช่วยเหลือคุณ! โดยสามารถเรียกใช้งานผู้ช่วยส่วนตัวคนนี้ได้ 2 รูปแบบ คือ กดปุ่ม Digital Crown ค้างไว้เพื่อเป็นการเรียกโปรแกรม Siri ขึ้นมารับคำสั่งด้วยเสียงจากคุณ หรือ…เพียงแต่ยกข้อมือขึ้นมาเพื่อทำให้หน้าจอแสดงไฟพร้อมใช้งาน จากนั้นคุณก็แค่พูดออกไปว่า "หวัดดี Siri…" แล้วตามด้วยประโยคคำสั่งที่คุณต้องการให้ผู้ช่วยคนนี้ทำให้ เช่น "หวัดดี Siri เตือนให้โทรหาแม่ด้วย" ระบบก็จะทำบันทึกเตือนความจำ เพื่อให้คุณโทรออกหาแม่ หรือ "หวัดดี Siri วันนี้อากาศในกรุงเทพฯ เป็นอย่างไร" ระบบก็จะแสดงอุณหภูมิและสภาพอากาศของกรุงเทพฯ ให้คุณทันที
5. ติดต่อคนสนิทได้ง่ายๆ เพียงคุณกดที่ปุ่ม Digital Touch หน้าจอก็จะกลายเป็นทางลัดในการเรียกดูหมายเลขคนสนิทของคุณขึ้นมาทันที ซึ่งคุณเลือกได้ว่าจะโทรออก หรือส่งข้อความหาพวกเขา เป็นต้น
อยากลองมีปฏิสัมพันธ์กับนาฬิกาบนข้อมืออย่าง "แอปเปิล วอตช์" ดูบ้างไหม...?
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
